Wednesday, April 16, 2008

Japan Trip with JR Pass#2 Kyoto Arashiyama Romantic Train (Sagano) Toei Uzumasa Movie Land

Japan Trip with JR Pass#2 Kyoto Arashiyama Romantic Train (Sagano) Toei Uzumasa Movie Land






I have a chance for Japan trip 10 days 9 nights and want to share my experiences #2 Kyoto Arashiyama Romantic Train (Sagano) Toei Uzumasa Movie Land.







ออกเดินทางจากสถานีชินอิมามิยะไปสถานีเกียวโต ใช้เวลา 1ชั่วโมง
ถามทางที่อินฟอร์เมชั่นเกียวโต และจะจองตั๋วRomantic Train ตามที่ทางอินฟอร์เมชั่นบอก แต่สถานีบอกว่าตั๋วเต็มแล้วให้ไปซื้อที่สถานีของ Romantic Trainเลย ก็เลยต่อรถไฟเจอาร์สายซากาโน่จากสถานีเกียวโตไปลงสถานีSAGA ARASHIYAMA
Photobucket - Video and Image Hosting


ไปถึงสถานีรถไฟ เดินไปสถานีของสายRomantic ซื้อตั๋วราคา 600 เยน รอบแรกที่ไปได้คือ 11.01 ต้องรออีก 40นาที รอเวลารถไฟออก





Romantic Train (Sagano) 25 นาที จากสถานีSaga Torokko ไปลงที่สถานี Kameoka Torokko ตอนแรกขึ้นไปนึกว่านั่งตรงไหนก็ได้ของตู้เรา ปรากฏว่านั่งตรงไหนก็โดนไล่ที่ พอดูตั๋วของคนที่มาไล่ที่เราก็แปลกใจว่าทำไมตั๋วของเขาที่เลขที่นั่ง แต่ของเราไม่มี เลยถามเขาว่าแล้วตั๋วแบบของเราจะนั่งตรงไหน ก็ไม่มีใครตอบ จนมีคนญี่ปุ่นคนนึงทำท่ายืน ก็เลยเข้าใจแล้วว่าตั๋วเราเป็นตั๋วยืนนั่นเอง ถึงได้ไม่มีหมายเลขที่นั่ง แสดงว่าตั๋วที่จองที่สถานีเกียวโต เป็นตั๋วระบุที่นั่ง แต่ถ้ามาซื้อที่สถานีนี่จะเป็นตั๋วยืน
Photobucket - Video and Image Hosting


ระหว่างทางรถไฟจะจอดเป็นระยะ ๆ ให้ชมวิวประมาณ2-3ครั้ง แล้วก็จะมีคนใส่หน้ากากปิศาจขึ้นมาบนรถไฟด้วยเดาว่ามาไล่โชคร้ายออกไปกระมัง วิวระหว่างทางสวยมาก ตอนนี้เริ่มรู้สึกดีที่ได้ตั๋วยืน เพราะมองเห็นวิวทั้งสองฝั่ง เสียดายจริง ๆ ที่ซากุระยังไม่บานแม้แต่นิดเดียว ไม่งั้นวิวจะยิ่งสวยกว่านี้อีกมาก







มองไปที่แม่น้ำ จะเห็นเรือที่แล่นอยู่ซึ่งสามารถนั่งย้อนกลับมาได้ แต่เราไม่นั่งเพราะจะเสียเวลามากกว่านั่งรถไฟ และยังไม่มีซากุระให้ดูด้วย




เดินเท้าไปสถานีJR Umahori เดินไปถ่ายรูปไป







ซากุระยังตูมอยู่เลย มีบานบ้างบางต้น






"
ไป Toei Uzumasa Movie Land ที่มีจัดงานSakura Festival นั่งรถไฟเจอาร์จากสถานี๊ Umahori ย้อนกลับไปลงสถานี Hanazono ออกจากด้านหน้าสถานีแล้วเดินไปทางซ้ายเรื่อย ๆ เจอวัดหรือศาลเจ้าเล็ก ๆ แต่มีซากุระบานแล้วก็อดใจไม่ไหว ต้องขอเข้าไปถ่ายรูปซะหน่อย จากนั้นเดินไปชอปปิ้งไป ผ่านร้าน Saver มีขนมอร่อย ๆ หลายอย่าง ราคาถูกกว่าร้านปกติด้วย นอกจากนี้ยังมี Bookoff ให้แวะอีก กว่าจะถึงโรงถ่ายโตเอะ ปรากฏว่าทุกคนถือถุงขนมที่ชอปกันมาคนละถุงสองถุงซะแล้ว หนักไม่ใช่เล่นด้วยสิ

พอเดินมาถึงโรงถ่ายโตเอะ ควักเงินจ่ายค่าเข้าไปคนละ 2200 เยน แล้วไปหาบะหมี่กินกันในนั้น มีทั้งอุด้งและโซบะ แล้วก็เดินเที่ยวโรงถ่าย เป็นหมู่บ้านซามูไรสมัยก่อน มีโชว์ให้ดูทั้งบนเวทีและโชว์กลางแจ้งกันสด ๆ และผมก็เดินไปเจอสระน้ำที่มีสัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสโผล่ออกมาพ่นน้ำให้ดูสักพักแล้วก็ดำน้ำไปกบดานอยู่ใต้น้ำเหมือนเดิม




ฟิกเกอร์ 1:1




วิวนี้เหมือนห้องของโชกุนเลย พอพวกเราถ่ายรูปที่มุมนี้กัน คนญี่ปุ่นเดินมาเห็นก็ร้องสึโค่ยกันใหญ่เลย แล้วต่อคิวรอถ่ายรูปบ้าง




แม่มดน้อยโดเรมี




ไอ้มดแดง Masked Rider




เดินจนโรงถ่ายปิดห้าโมงเย็น เสร็จแล้วตอนแรกตั้งใจจะไปเดินย่ำแสงสีเกียวโตตอนกลางคืนที่ Gion และ สวนMaruyama Park ที่จะมีประดับไฟ แต่ท่าทางจะเดินกันต่อไม่ไหวเนื่องจากของที่หอบหิ้วซื้อกันมา และก็เริ่มเดี้ยงกันแล้ว รวมทั้งคนนำทางคือผมเองด้วยก็เลยตัดสินใจกลับโอซาก้าไปเก็บของที่โรงแรมก่อนดีกว่า
จากนั้นก็เปลี่ยนแผนเป็นเดินทางไปกินปู ร้านปูยักษ์ KANI DORAKU ที่ Dotonbori ไปถึงร้านดูเมนูคอร์สที่หน้าร้านแล้วตัดสินใจเลือกคอร์ส 3990 เยน ไปกัน 4คน สั่งมา3เซ็ต กินกันอิ่มทีเดียว ถ้าสั่งครบคน 4ชุดคงกินไม่หมด เนื้อปูก็อร่อยดี แต่ไม่หวานเท่าปูม้าบ้านเรา กินให้รู้ว่ารสชาติมันเป็นเช่นนี้เอง อิ่มหนำสำราญกันสมใจอยากแล้ว มีไอติมราดชาเขียวตบท้ายให้ด้วย อร่อยสุด ๆ












No comments: